ด้วยมีพื้นที่ติดกับประเทศพม่าและประเทศลาว
สามารถติดต่อค้าขายได้อย่างสะดวก
มีสถานที่ท่องเที่ยวเต็มไปด้วยธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์เหล่านี้
จึงไม่ยากที่เชียงรายจะก้าวขึ้นมาเป็นได้ทั้งจังหวัดท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ
หากแต่ตอนนี้กลับได้เป็นเพียง "พระรอง"
เพราะพระเอกตัวจริงในย่านนี้คือจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีความเจริญเป็นอันดับ 2
ของประเทศ เป็นศูนย์กลางความเจริญในภาคเหนือ
นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติต่างอยากไปท่องเที่ยว นักธุรกิจอยากมาลงทุน
อสังหาริมทรัพย์เฟื่องฟู ตามหัวเมืองใหญ่เต็มไปด้วยแสงสียามค่ำคืนไม่ต่างจากกรุงเทพฯ
จนทำให้บางครั้งเชียงรายถูกค่อนแคะว่าเป็นเมืองตากอากาศ
ที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเยี่ยมเยียนหลังจากที่เที่ยวเชียงใหม่เสร็จแล้วเท่านั้น!!
จนทำให้ชาว เชียงราย เกิดคำถาม
ต่างครุ่นคิดว่าทำไมจังหวัดของตนถึงไม่อาจเทียบเท่า ทั้งที่ปัจจัยโดยพื้นฐานไม่แตกต่างกัน?
จากที่มีโอกาสได้ไปเยือนเหนือสุดแดนสยาม
มีโอกาสได้พูดคุยกับ บุญธรรม ทิพย์ประสงค์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย
วิเคราะห์ให้ฟังถึงความเสียเปรียบของจังหวัดเชียงรายว่า มองตามความเป็นจริงแล้ว
เราสามารถเป็นได้ถึงจังหวัดเบอร์ 1 ของภาคเหนือ และก้าวขึ้นมาเป็นจังหวัดลำดับต้นๆ
ของประเทศได้อย่างไม่ยากเย็น
แต่รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยต่างโฟกัสไปแต่จังหวัดเชียงใหม่เสียหมด
เนื่องจากมองว่าเป็นเมืองที่มีการพัฒนาแล้วและมองข้ามถึงศักยภาพที่แท้จริงของจังหวัดเชียงราย
"ทั้งที่เป็นจังหวัดที่มีโลจิสติกส์และชัยภูมิที่เหมาะสมกับการค้าขายมากที่สุดในประเทศ!"
ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงรายกล่าวอย่างมั่นใจ
ก่อนจะชักชวนวิเคราะห์ต่อ
"เราสามารถค้าขายทางบกกับพม่าได้ที่อำเภอแม่สาย ติดกับท่าขี้เหล็ก
จะค้าขายที่อำเภอเชียงแสนก็สามารถทำได้โดยผ่านทางน่านน้ำ ที่อำเภอเชียงของเองเราก็มีสะพานมิตรภาพไทย-ลาว
ที่กำลังสร้างใหม่ ทำให้สามารถติดต่อค้าขายได้อย่างสะดวกกับประเทศลาว
และต่อยอดไปถึงเมืองคุนหมิง ประเทศจีน
"จากศักยภาพที่เรามีผู้ประกอบการและประชาชนในจังหวัดเชียงรายต่างตั้งเป้าหมายไว้อยู่เสมอว่าจะสามารถก้าวชึ้นมาสู่เบอร์หนึ่งในภาคเหนือให้ได้สักวัน"
ประธานหอการค้าเชียงรายกล่าว
เสริมให้ฟังว่า
ตอนนี้จังหวัดเชียงรายเป็นเหมือนภูเขาที่จมอยู่ใต้น้ำ
ผู้คนที่สัญจรผ่านจะเห็นแต่เพียงยอด ในขณะที่ลึกลงไปยังมีความยิ่งใหญ่เฉกเช่นภูเขา
แต่ไม่มีใครมองเห็น ดังนั้น ปัญหาที่หนักและอุปสรรคที่สำคัญของจังหวัดเชียงรายคือการขาดแรงผลักดันที่มาจากทางรัฐบาล
เนื่องจากความไม่แน่นอนทางนโยบาย และการสนับสนุน
รวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่บ่อยครั้งทำให้ขาดความต่อเนื่องในการพัฒนายุทธศาสตร์ที่ได้วางเอาไว้
เปรียบเสมือนเรือที่พร้อมขับเคลื่อนแต่ขาดลมส่ง
ทำให้ไปได้ช้ากว่าความเร็วสูงสุดที่มี
แต่ประธานหอการค้าจังหวัด เชียงราย ได้ชี้แจงว่า
จะมีลมแรงที่มีชื่อว่า "ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน"
ที่จะพัดสะบัดส่งให้เชียงรายแล่นฉิว
และเป็นโอกาสครั้งสำคัญของจังหวัดเชียงรายที่ต้องคว้ามาให้ได้
เพราะเชียงรายจะกลายเป็นจังหวัดศูนย์การค้าของอาเซียนของสี่ประเทศ
คือ ไทย ลาว จีน และพม่า
"นอกจากนี้
การเปิดประชาคมอาเซียนจะยิ่งทำให้ประเทศลาวและพม่ามีการพัฒนามากยิ่งขึ้น
ซึ่งเป็นผลดีต่อเชียงรายเป็นอย่างมาก เพราะ 70
เปอร์เซ็นต์ของรายได้ในจังหวัดมาจากการค้าขาย ไม่ว่าของกินของใช้เขาต้องการจากเราทั้งหมด
ยิ่งเขาเจริญเราก็ยิ่งเจริญตาม
ยิ่งเชียงรายเจริญภาคเหนือตอนบนของไทยก็จะได้รับผลดีจากการค้าขายที่ดีมากยิ่งขึ้น"
บุญธรรมกล่าว
หันมามองอีกหนึ่งปัจจัยที่ขาดไม่ได้หากมีการค้าขายที่เพิ่มมากขึ้น
การหลั่งไหลเข้ามาของชาวต่างชาติ ย่อมมีผลต่อความมั่นคงของจังหวัด
ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ พ.ต.อ.วีระวุธ
ชัยชนะมงคล ผกก.สภ.แม่จัน
หนึ่งในด่านที่มีการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดมากที่สุดในประเทศ ได้กล่าวถึงการเตรียมพร้อมด้านความมั่นคงของจังหวัด
ที่ตั้งเป้าจะพัฒนาเป็นที่หนึ่งในภาคเหนือและก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างน่าคิด
พ.ต.อ.วีระวุธบอกว่า
ในฐานะที่เป็นผู้รักษาความสงบและเป็นเสาหลักในด้านความมั่นคงของพื้นที่จังหวัดเชียงราย
จึงตระหนักอยู่เสมอว่ามีภาระหน้าที่ที่สำคัญ เพราะหากที่ใดมีความสงบ
ผู้คนก็ต่างที่อยากจะหลั่งไหลเข้ามาหาจนกลายเป็นแหล่งของความเจริญได้ในที่สุด
ดังนั้น ในอนาคตที่เราจะกลายเป็นประตูหน้าด่านที่สำคัญในด้านเศรษฐกิจ
ความมั่นคงจึงต้องพัฒนาไปควบคู่กัน รวมถึงมาตรฐานในการบริการแก่ประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
"ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จังหวัดเชียงราย
และโดยเฉพาะที่แม่จัน ได้มีการเตรียมความพร้อมเรื่องภาษา
ไม่ใช่แต่เพียงภาษาอังกฤษที่เป็นภาษากลางเท่านั้น
แต่ยังได้มีการเสริมด้านภาษาท้องถิ่นโดยเฉพาะภาษาพม่า
เพราะเนื่องจากมีการค้าขายและผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมาก ดังนั้น
การฝึกพูดภาษาของชาวต่างชาติได้จะช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
และสร้างความเป็นมิตรแก่ชาวต่างชาติที่ใช้บริการเจ้าหน้าที่ตำรวจ"
นอกจากด้านภาษาแล้ว พ.ต.อ.วีระวุธ
ในฐานะตัวแทนของยูเอ็นในการฝึกของนานาประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนจากการประท้วง
ยังได้ถ่ายทอดประสบการณ์ที่ได้รับเชิญจากยูเอ็นไปอบรมการควบคุมฝูงชน ที่กรุงมอสโก
ประเทศรัสเซีย ให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนทั้งเทคนิคในการสังเกตผู้กระทำความผิด
การควบคุมฝูงชนหากเกิดการจราจล และสิ่งสำคัญที่สุดปลูกฝังมาตรฐาน ในการให้บริการของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องมีความเป็นมืออาชีพ
สามารถสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวและผู้ที่เข้ามาค้าขายได้อยู่เสมอ
เพื่อที่จะทำให้เชียงรายกลายเป็นเบอร์หนึ่งของภาคเหนือ
และพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้อย่างไม่อายใคร
อีกภาคส่วนที่สำคัญ
และเหมือนจะเป็นสิ่งชูโรงสำหรับการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว
จิตรา สิทธินานุวัฒน์
ผอ.กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน ด้านวัฒนธรรม จ.เชียงราย
ได้เปิดเผยแผนงานในด้านวัฒนธรรมว่า
ทางจังหวัดเชียงรายได้เตรียมตัวที่จะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
ในด้านวัฒนธรรมอยู่เสมอ มีการเตรียมคนในพื้นที่ ทั้งหน่วยงานรัฐและประชาชน
ให้มีความรู้ความเข้าใจ กับประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น
โดยได้มีการดำเนินงานร่วมมือกับประเทศใกล้เคียงเช่นพม่า ลาว
ให้มีการจัดงานประเพณีต่างๆ ร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสไปมาหาสู่
และพร้อมที่จะอยู่ร่วมกันในอนาคต
นอกจากนี้
ยังมีการให้ศิลปินชาวไทยมีโอกาสเดินทางไปประเทศพม่าเพื่อสร้างผลงานต่างๆ
เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนด้านศิลปะ วัฒนธรรมอีกด้วย
ก่อนที่จะทิ้งท้ายว่า
เชียงรายได้มีการเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอยู่เสมอ
และมั่นใจว่าทุกอย่างจะดำเนินไปได้ด้วยดี
อนาคตของจังหวัด "เชียงราย"
จะเป็นอย่างไรหลังเปิดม่านต้อนรับประชาคมอาเซียน
จะมีโอกาสพลิกบทบาทจากพระรอง มาสู่ พระเอก
ได้หรือไม่
ต้องจับตาดูกันต่อไป
บริการ เช่ารถตู้เชียงราย บริการรถตู้ทัวร์เชียงรายพร้อมคนขับ
ทีมงานไอเชียงราย คนท้องถิ่นที่รู้จักเชียงรายมาตลอดกว่า 30 ปี สุภาพ
ใจบริการเกินร้อย :: บริษัท ไอเชียงราย จำกัด ::เลข ที่ 185/8 หมู่ 4 ต. ริมกก
อ.เมือง จ.เชียงราย 57100 สายด่วนจองทัวร์ (หนุ่ย) 081-8854644 (ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่
21-00512) แฟกซ์: 053-152141 อีเมล์: booking@ichiangrai.com เวบไซต์:
http://www.ichiangrai.co.th
คลิ๊กดูแผนที่บจ.ไอเชียงราย เช่ารถตู้เชียงราย
No comments:
Post a Comment