Thursday, September 11, 2014

หลวงพระบาง 2


วันนี้เราจะพาทุกท่านมาสัมผัสการท่องเที่ยวใน หลวงพระบาง ในแบบชิวๆคือการนั่งรถจัมโบ้ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เรามารู้จักหลวงพระบางให้มากขึ้นกันเลยครับ
จุดแรกที่เราจะพาทุกท่านไปนั่นก็คือ ตลาดเช้า ซึ่งตลาดเช้าหลวงพระบาง หรือ ตลาดเรือเมล์นั้นตั้งอยู่ท่าเรือข้ามฟากแม่น้ำโขง ถนนเรียบแม่น้ำโขงช่วงที่ตัดกับ ถนนกฤษราช เปิดทุกวันตั้งแต่ตี 5 ถึง 10 โมงเช้า ลักษณะเป็นตลาดสดวางของขายแบกับพื้น มีสินค้าที่นำมาวางขายกันเยอะมากมาย ส่วนใหญ่ของที่ขายก็จะมีความคล้ายคลึงกับทางภาคเหนือ และ อีสานบ้านเรา
ตลาดเช้ามันแสดงให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ที่หลวงพระบางแห่งนี้ และที่สำคัญเขาจะมีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับแม่น้ำโขง แม่น้ำคาน ความอุดมสมบูรณ์เกิดขึ้นพร้อมไปด้วยแม่น้ำสายสำคัญๆมีของกินผลหมากรากไม้ มีผักสดๆมีปลา นี่แหละคือดินแดนแห่งความสมบูรณ์มากๆ

อีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจมากๆภายในเมืองหลวงพระบางแห่งนี้คือ วัดเชียงทอง วัดแห่งนี้เปรียบได้ดังอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมของลาวเลยทีเดียว สร้างขึ้นในปีพุทธศักราช 2103 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช สิ่งที่เราเห็นอยู่นี้คือสถาปัตยกรรมแบบลาวล้านช้าง  ส่วนช่อฟ้าของวัดเชียงทองจะอยู่ตรงกลางของส่วนที่เป็นหลังคา ถ้าวัดที่ประชาชนสร้าง หรือ คหบดีสร้างจะมีช่อฟ้าได้ไม่เกิน 9 ช่อฟ้า แต่ถ้าเกิน 9 ขึ้นไปเป็นวัดที่กษัตริย์สร้าง แต่ที่วัดเชียงทองนี้มีถึง 17 ช่อมีความสวยงามมากๆ ส่วนโครงหลังคาจะเป็นโครงหลังคาแบบ 3 ชั้น เมืองหลวงพระบางในอดีตเขาเรียกกันว่านคร 65 วิหาร เนื่องจากมีวัดจำนวนมากมายเหลือเกิน จนกระทั่งในปี 2450 เกิดศึกฮ้อขึ้นมาจึงมีการเผาวัดกันต่างๆนาๆ หลงเหลือวัดเชียงทองเพียงวัดเดียวเท่านั้น ก็เป็นความน่าอัศจรรย์ของวัดแห่งนี้ ที่สามารถรอดพ้นจากภัยสงคราม และทำให้เรายังคงได้ชื่นชมความงดงามจนถึงทุกวันนี้

จากวัดเชียงทองเรานั่งรถจัมโบ้ไปต่อกันที่ หมู่บ้านช่างฆ้อง เป็นหมู่บ้านทอผ้าพื้นเมือง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้การทอผ้าพื้นเมืองแบบหลวงพระบาง และที่นี่ยังมีผ้าทอทั้งเก่า และใหม่วางจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นผ้าพันคอ ผ้านุ่ง หรือเสื้อผ้า แถมยังส่งขายในต่างประเทศอีกด้วย และที่นี่ยังเป็นสถานที่เก็บผ้า และของโบราณที่ตกทอดกันมากว่า 300 ปี  ซึ่งหาชมได้ยาก เช่นผ้าโบราณต่างๆ เตียงนอนพระมเหสีเจ้าชีวิต ซึ่งเก็บรักษาเป็นอย่างดีควรค่าแก่การเยี่ยมชม
อีกหนึ่งสถานที่ที่เราจะพาทุกท่านไปเยี่ยมชมนั่นก็คือ สันติเจดีย์ วัดโพนเพา เป็นเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ของพระสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ สร้างขึ้นโดยสาธุทรายสมุทร (คนที่นี่เรียกพระว่าสาธุ) พระทรายสมุทรเป็นผู้ริเริ่มในการก่อสร้างตั้งแต่ 2512  และเมื่อขึ้นมาที่นี่แล้วมีอีกสิ่งหนึ่ง ที่คุณไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด คือ การได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของหลวงพระบาง จากจุดนี้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของหลวงพระบางได้ 360 องศา มองเห็นจุดชมวิวต่างๆไม่ว่าจะเป็น พระธาตุพูสี สะพานข้ามแม่น้ำคาน 

และนี่คือ หลวงพระบาง วิถีชีวิตที่ไม่มีอะไรปรุงแต่ง วัฒนธรรม บรรยากาศ ธรรมชาติ ไม่แปลกใจเลยว่าเมืองนี้จะได้รับเป็นเมืองมรดกโลก ถ้าย้อนเวลากลับไปสักประมาณ 10 ปีที่แล้ว ที่นี่ยังคงเหมือนเดิมเหมือนเราหยุดเวลาเอาไว้ เพราะฉะนั้นใครที่ต้องการมาสัมผัสเรื่องราวของความเป็นธรรมชาติ เรื่องราวของวัฒนธรรม ผู้คน และวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบาง ท่านสามารถใช้บริการ ทัวร์หลวงพระบาง โดย :: บริษัท ไอเชียงราย จำกัด ::เลข ที่ 185/8 หมู่ 4 ต. ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย 57100 สายด่วนจองทัวร์ (หนุ่ย) 081-8854644 (ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 21-00512)
แฟกซ์: 053-152141 อีเมล์: booking@ichiangrai.com เวบไซต์: http://www.ichiangrai.co.th

คลิ๊กดูแผนที่บจ.ไอเชียงราย เช่ารถตู้เชียงราย

รวมภาพบรรยากาศส่วนหนึ่งของ หลวงพระบาง


































































































































 

แผนที่เส้นทางไปหลวงพระบาง สปป.ลาว จากตัวเมืองเชียงราย











แผนที่เส้นทางไปหลวงพระบาง คลิ๊ก

No comments:

Post a Comment